รูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันของหนุ่มสาวออฟฟิศ มักทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงานจนลืมห่วงใยดูแลสุขภาพ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่มีเวลา” แต่ทราบหรือไม่ว่า คุณสามารถออกกำลังกายในขณะทำงานได้โดยไม่ต้องเจียดเวลาไปเข้าฟิตเนสเลย แถมยังสามารถบริหารหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการออกกำลังกายแบบเต็มรูปแบบเพียงแค่เดินขึ้นลงบันไดเท่านั้น
การเดินขึ้นลงบันได เป็นการออกกำลังกายขณะทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เห็นได้จากกิจกรรมจัดการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดเป็นประจำทุกปี ด้วยความที่มีรูปแบบไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาระหว่างวันได้ ที่สำคัญนอกจากจะทำให้ห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอีกด้วย โดยประโยชน์จากการขึ้นลงบันได ดังเช่น
1.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานของระบบหัวใจ หลอดเลือดและปอด
2.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่บริเวณก้นและขาซึ่งจะกระชับและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นเมื่อบริหารเป็นประจำ
3.การขึ้นลงบันไดถือเป็นการออกกำลังกายที่เก็บสะสมได้จนเท่าการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน ทั้งยังสามารถเผาผลาญพลังงานได้ 8-11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับการออกกำลังกายทั่วไป
4.การขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
5.การขึ้นลงบันไดถือเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนได้อีกด้วย
แม้การเดินขึ้นลงบันได จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ทว่า ควรทราบถึงวิธีการที่ถูกต้องเพื่อให้คุณสามารถได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด เริ่มจากการจัดท่าทางในการเดิน โดยควรมีลักษณะหลังและคอตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า ผ่อนคลายส่วนหัวไหล่ ควรเดินเต็มเท้า ไม่กระแทกข้อเท้าหรือข้อเข่า และในระหว่างเดินควรจับราวและวางมือไว้ใกล้ราวบันไดเสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการก้าวพลาด ในท่านที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ควรเริ่มจากการขึ้นบันไดเพียง 1 ชั้นก่อน สลับกับการเดินพื้นราบ แล้วจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนชั้นอย่างช้าๆในภายหลัง
สุขภาพที่ดีนั้น มิใช่ได้มาจากการออกกำลังกายอย่างหักโหมเพียงอย่างเดียว แต่ควรปฏิบัติอย่างพอดี และสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถสอดแทรกได้ในกิจกรรมที่คุณทำอยู่แล้ว เช่น เปลี่ยนจากการกดลิฟต์ มาเป็นการเดินขึ้นลงบันได เปลี่ยนจากการยกหูโทรศัพท์เพื่อคุยกับเพื่อนร่วมงานเป็นการเดินไปคุยที่โต๊ะ หรือแม้แต่ระหว่างนั่งดื่มกาแฟในช่วงพักเบรก อาจลองยืดเหยียดขาบ้าง บิดเอวบ้าง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวให้กับร่างกายของเราค่ะ
การเดินขึ้นลงบันได เป็นการออกกำลังกายขณะทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เห็นได้จากกิจกรรมจัดการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดเป็นประจำทุกปี ด้วยความที่มีรูปแบบไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาระหว่างวันได้ ที่สำคัญนอกจากจะทำให้ห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอีกด้วย โดยประโยชน์จากการขึ้นลงบันได ดังเช่น
1.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานของระบบหัวใจ หลอดเลือดและปอด
2.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่บริเวณก้นและขาซึ่งจะกระชับและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นเมื่อบริหารเป็นประจำ
3.การขึ้นลงบันไดถือเป็นการออกกำลังกายที่เก็บสะสมได้จนเท่าการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน ทั้งยังสามารถเผาผลาญพลังงานได้ 8-11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับการออกกำลังกายทั่วไป
4.การขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
5.การขึ้นลงบันไดถือเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อนได้อีกด้วย
แม้การเดินขึ้นลงบันได จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ทว่า ควรทราบถึงวิธีการที่ถูกต้องเพื่อให้คุณสามารถได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด เริ่มจากการจัดท่าทางในการเดิน โดยควรมีลักษณะหลังและคอตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า ผ่อนคลายส่วนหัวไหล่ ควรเดินเต็มเท้า ไม่กระแทกข้อเท้าหรือข้อเข่า และในระหว่างเดินควรจับราวและวางมือไว้ใกล้ราวบันไดเสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการก้าวพลาด ในท่านที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ควรเริ่มจากการขึ้นบันไดเพียง 1 ชั้นก่อน สลับกับการเดินพื้นราบ แล้วจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนชั้นอย่างช้าๆในภายหลัง
สุขภาพที่ดีนั้น มิใช่ได้มาจากการออกกำลังกายอย่างหักโหมเพียงอย่างเดียว แต่ควรปฏิบัติอย่างพอดี และสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถสอดแทรกได้ในกิจกรรมที่คุณทำอยู่แล้ว เช่น เปลี่ยนจากการกดลิฟต์ มาเป็นการเดินขึ้นลงบันได เปลี่ยนจากการยกหูโทรศัพท์เพื่อคุยกับเพื่อนร่วมงานเป็นการเดินไปคุยที่โต๊ะ หรือแม้แต่ระหว่างนั่งดื่มกาแฟในช่วงพักเบรก อาจลองยืดเหยียดขาบ้าง บิดเอวบ้าง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวให้กับร่างกายของเราค่ะ